top of page

ออกเดินทางไปสู่เมืองที่ไม่เคย(น่า)เบื่อ - "BORED TOWN"

**สัมภาษณ์เมื่อ 4/12/22





 


สวัสดีครับ พี่แก๊ป ช่วยแนะนำตัวคร่าว ๆ นิดหนึ่งครับ

สวัสดีค่ะ ชื่อ แก๊ป ค่ะ ชื่อในวงการ NFT ก็คือ sorryvrerror ค่ะ


พี่เริ่มทำ NFT มาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นจาก collection ชื่อ Faceless Portrait บน Chain Ethereum


พอผ่านมาหนึ่งปีเนี่ย  ก็ได้มาลองทำ collection ชื่อว่า Bored Town ลงใน Layer 2 บน Optimism ค่ะ





ทำไมพี่แก๊ปถึงตัดสินใจเลือกใช้ Layer 2 เหรอครับ ?

ก็ด้วยความที่พี่มองว่า Layer 2 มันเสียค่า gas ถูกมาก


คือถ้าหากว่าเราไปขายบน Layer 1 บางทีค่า gas มันแพงมาก  เราก็จะมีความแบบเกรงใจ collector เราก็ไม่อยากขายราคาที่มันแพงเกินไปเนอะ


แล้วพอมาเจอ Layer 2 คือมันเหมือนเป็นสิ่งที่เรารอคอยมานานแล้วล่ะค่ะ  ก็เลยมาลองเรียนรู้ดู



 


แล้ว Collection Bored Town เกิดขึ้นได้ยังไงครับ ?

จริง ๆ Bored Town อ่ะ ในครั้งแรกเลยนะ พี่แพลนไว้ว่าพี่จะทำบน Layer 1 เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องของ Layer 2 เท่าไหร่


ความเป็น Bored Town มันเริ่มจากตอนที่พี่ได้ยินเรื่องของ collection NFT ชื่อ Goblin Town  ซึ่งเป็นตัวเริ่มกระแสของงาน Free Mint แล้วก็มันขายดีมาก แล้วเขาบอกว่าเขาไม่มี Road Map ไม่มี utility 


ซึ่งพี่เนี่ยเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าการต้องทำ Road Map หรือต้องทำ utility ให้กับ NFT ตัวเอง มันคือสิ่งที่ทำให้ศิลปินรู้สึกกดดันอ่ะ เหมือนแบบ อ้าว ฉันก็อยากวาดรูปแล้วขายของฉันเฉย ๆ แล้วให้ฉันต้องไปคิดอีกก็ บ๊ายบาย


แล้วตอนนั้นคือเครียด เพราะว่าพอช่วงหลัง ๆ ที่พี่ทำ Faceless Portrait  ก็จะมีคนมาถามตลอด ว่าเออ ซื้องานคุณไปแล้วมีอะไร มี utility อะไร แล้วคุณได้วาง Road Map อะไรไว้ไหม เราก็อึกอัก ๆ เพราะเราก็แบบ ก็ไม่ได้คิดอะไรอ่ะ ก็แค่อยากวาดรูปเฉย ๆ


พอมันมีไอ้ Goblin Town เนี่ย ก็เลยรู้สึกว่า อ่า นี่แหละคือทางรอดของเรา ที่จะแบบ เออ สามารถทำงานที่เราชอบขึ้นมาได้ โดยที่ไม่ต้องไปเครียดอะไรกับมัน 


อืม พี่ก็แอบเลยจ้ะ แอบมาสร้างงาน Bored Town ไว้ โดยที่ไม่บอก collector เก่าๆ แล้วก็ไม่บอกทีมงานเก่าด้วย






อันนี้ก็แอบมา solo เลย ?

Solo เลย กะว่าจะลองปล่อยไป อ่ะ ถ้ารอดก็รอด ถ้าไม่รอดก็ไม่เป็นไร แบบนี้ แต่ก็แอบทำไม่บอกใคร กลัวเขาด่า


เออ นั่นแหละพี่ก็เลยวาดไป ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงในการวาด Bored Town



วันเดียวเลย ก็ถือว่าเร็วมากเลยนะครับ

วันเดียว ๆ คือพี่เคยแบบ ดู reference ไว้ แล้วเราก็มองว่า เฮ้ย เราอยากทำแบบนี้ เราอยากลองวาดงานแบบนี้ดูว่ามันจะสนุกไหม แบบนี้ค่ะ


ก็เลยลองวาด พอไปเจอไอ้ Goblin Town นี่แหละ ก็แบบ เฮ้ย เราได้โอกาสทำงานที่เราอยากวาด อยากลองมานานแล้ว แต่ว่ามันเป็นคนละแนวกับ Faceless ไง ก็มาลองวาด  เอ้ย เอ้อมันก็สวยเว้ย (หัวเราะ)


ตอนแรกก็จะเอาไปลงบน Ethereum แต่ความที่ Ethereum มันก็จะมีค่า Deploy Smart Contract ซึ่งมันค่อนข้างแพง ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่พีคๆ อยู่พอดีด้วย ถ้า Deploy Smart Contract ก็น่าจะต้องมีแบบ 0.5 ETH



ในตอนนั้นก็… น่าจะเกือบ 5 หมื่นบาท

ใช่ เกือบ 5 หมื่นอยู่ เลยอ่ะ ไม่ได้ละ ก็เลยว่าจะเอาไปลง Polygon


พี่มีเอาลง Polygon ไว้ด้วยนะ เป็นแบบเป็นตัววิบวับอ่ะ ตัวแบบ animate ที่เหมือนเป็น เขาเรียกไรล่ะ เหมือนเป็น preview อ่ะ เป็นตัวอย่างเฉย ๆ


แล้วกะว่า เนี่ย พรุ่งนี้ ฉันจะลง Polygon นี่แหละ แต่ปรากฎว่า วันนั้นวันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันที่ Optimism แจกเหรียญพอดี


พี่ก็เลยลองเข้าไปดู เป็น ecosystem ของ Optimism เราก็จำได้ว่าประมาณเดือนหนึ่งที่ผ่านมา เราเคยไปสมัคร Launchpad ของ Quix ไว้ ตอนนั้นยังเป็น Quixotic อยู่ ก็เลยแอบเข้าไปดูดีกว่า


ปรากฏว่าเขาก็รับเรา แล้วเราก็สามารถที่จะเอางานไปลง Launchpad ได้ ก็เลยเปลี่ยน จากที่จะเอาไปลงใน Polygon ทิ้ง ๆ ไม่เอา ๆ  แล้วก็เอามาลงใน Quixotic แทน





Bored Town ก็เลยได้อยู่ Quixotic เป็น Collection แรก ๆ ของทางนั้นด้วย 

ใช่ ๆ แรก ๆ เลยค่ะ แล้วความบังเอิญก็คือว่า Quixotic สีมันเป็นแบบ ขาว-แดง-ดำ ก็คือเหมือนทางของเราเลย เป็นแบบสีธีมเดียวกันเลย


ด้วยความที่พี่ทำงานกับชาวเผ่าในแพร่ แล้วสีของชนเผ่า มันก็จะเป็นแนวนี้ แนวเป็นเสื้อสีดำ แล้วก็มีลายสีแดง สีขาว แล้วก็สีเหลือง สีฟ้า

แต่พี่มองว่าสีที่มันเตะตา แล้วก็เอามาใช้ได้มากที่สุดในแง่ของดีไซน์ ก็จะเป็น สีขาว-แดง-ดำ มันก็แบบ ตรงตัวพอดีด้วยนะ


มันก็เลยเป็นงานที่แบบรู้สึกว่ามันออกมาจากข้างในเราเลยค่ะ คือมันก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่แล้วด้วย ก็เลยเกิดเป็น Bored Town ขึ้นมาด้วย ธีมประมาณนี้ แบบที่ไม่ได้วางแผนอะไรมาก่อน



 


พอหลังจาก Bored Town แล้ว ก็มี Collection อื่น ๆ ตามมาอีกเยอะมากเลย คือมันเกิดมาจากที่เราเองก็มีอะไรที่อยากทำหลายอย่างด้วยใช่ไหมครับ ?

ใช่ๆ ประมาณ 20 Collections ได้ค่ะ ตอนนี้ไม่นับแล้ว พอ ไม่นับ (หัวเราะ)


คือพี่อ่ะไม่ใช่ศิลปินมืออาชีพ พี่ก็ยังแบบอยากลองวาดอันนั้น อันนี้  ว่า เฮ้ย เราจะวาดได้ไหม เราเห็นงานแบบนี้ สไตล์นี้ ก็แบบเราน่าจะวาดงานสไตล์นี้ได้


ก็ลองวาดไปเรื่อย ๆ  มันก็เลยกลายเป็นงานหลาย ๆ คอลเล็กชั่นที่ผ่านมา มันก็เลยจะแบบมีดีเทลมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันไปด้วย  แต่คนก็ดูออกนะ  คนก็แอบตามไปเจอตลอดเลย แล้วก็ อ่ะ โอเค ยอมรับก็ได้ ฉันก็แอบวาดมาเองแหละ





ในส่วนของ Collections อื่น ๆ เอง พี่ก็เลือกที่จะกระจายไปลงตาม chain อื่น ๆ ด้วย ?

เริ่มแรกมันมาจากการที่ collection Bored Town โดนก๊อปไปอยู่บน Solana


แล้วเราก็แบบมีความเคียดแค้น Degen Ghost ใช่ Degen Ghost นี่แหละมันขายได้เยอะกว่าเราเว้ย แล้วเราก็แบบ เราจะทำยังไงให้คนรู้จักเรามากกว่านี้


พี่ก็เลยเอาล่ะ ฉันตั้งต้นด้วยการที่ฉันทำหลาย ๆ chain เลยดีกว่า เอาไปลง Solana  ให้หายแค้นใจละหนึ่ง chain (หัวเราะ) พี่ก็ใช้วิธีของไอ้ตัว copycat นั่นแหละ มันเอาไปลง chain ไหน เราก็ตามไปลง chain เดียวกับมัน เลยเรียนรู้วิธีการลงงานใน Solana 


แล้วหลังจากนั้นมา มันก็จะมีของ Quixotic เนอะ เค้ามีตลาดใหม่เพิ่งเปิดชื่อว่า Nova Stratos ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีใครไปลงเท่าไหร่ พี่ก็ อ่ะ อันนี้น่าสนใจ ก็เอาไปลงค่ะ เอาไปแอบลงไม่ได้บอกใครใน Bored Town ด้วย เพื่อที่จะแบบลองดูว่า ถ้าเราทำงานสักหมื่นชิ้นเนี่ย มันจะมีคนไป Mint ไหมนะ


ซึ่งก็หมดเหมือนกัน คือมันเป็น Free Mint ไง แต่มันก็หมดแหละ  งานมันดี พี่ก็ยอมรับ มันปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ (หัวเราะ) ทุกงานที่เราทำมันน่ารักหมด คนก็อยากได้แหละ ก็อาจจะใช้เวลานิดนึง



ตอนนี้ Bored Town เลยมี Collections ย่อย ๆ และก็มีคอมมูฯ เกิดขึ้นอยู่แทบทุก chain เลย

แทบทุกเชน ตอนนี้มี OptimismArbitrum NovaZksync Testnet แล้วก็ตอนนี้มี Aptos ด้วย Polygon ก็มี


คือหลัง ๆ มา  จากที่เราทำ collection มาเยอะ ๆ มันก็จะทำให้เหมือนดึงคนเข้ามาในคอมมูฯได้เยอะขึ้น  แล้วพอคนเห็นเราทำเยอะ ๆ เขาก็จะรู้สึกว่า คนนี้มีประสบการณ์ในการทำหลาย ๆ อย่าง 


ก็จะมีคนเข้ามาหาพี่เรื่อย ๆ บอกว่าช่วยสอนหน่อยว่าถ้าเอางานไปลงควรจะทำยังไง  พี่ก็สอนไป เราก็มองว่าเราก็สอนคนได้นี่หว่า 


ก็เลยมีความคิดว่าอยากจะเอาศิลปินที่ทำงานด้วยมาทำเป็นกลุ่มด้วยกัน กลายเป็นแบบ The Bored Town Studio





 


ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เริ่มต้นจากที่พี่แก๊ปอยากจะวาดรูปเฉย ๆ สบาย ๆ กลายเป็นถึงจุดที่ว่ามันจริงจังขึ้น กลายเป็น Bored Town Studio ขึ้นมา

ด้วยความที่ ข้อหนึ่ง คือก่อนหน้าที่จะมาทำ Bored Town พี่ทำธุรกิจมาก่อน ก็คือ Srann นั่นแหละ


เราก็จะมี Mindset ของความเป็นนักธุรกิจอยู่ในหัวด้วย ก็เลยอยากจะทำให้มันจริงจังขึ้น เป็นธุรกิจที่มันสามารถเลี้ยงตัวเองได้


แล้วก็ ข้อสอง ก็คือ คนก็ชอบมาถามว่าถืองาน Bored Town ตั้งเยอะตั้งแยะ ก็กลับมาที่ utility อีกละ

เราก็เลยต้องแบบ เออ ก็หา utility ใส่ให้ก็ได้ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้แบบจริงจังขนาดนั้น

 

เหมือนกับเราไปเจอโอกาสอะไร เราก็เอามาใส่ อย่างเช่น ความที่เรามีเกือบ 20 Collection เนอะ

ตอนนั้นพี่มี 12 Collection อยู่บน Optimism แล้วก็ Arbitrum  เลยทำให้เราได้ไปรู้จักกับ Babylon 


เขาก็ติดต่อมา ว่าเนี่ยเขากำลังทำเป็น Marketplace แบบ Multi-Chain นะ เดิมเขาทำอยู่บน BSC อย่างเดียว


พอทำ Multi-Chain เขาก็มองหา collection ที่จะเอาไปลงจาก chain อื่น ๆ แล้วเขาก็เห็นว่า Bored Town เนี่ย ถ้าเขาติดต่อมาแล้วเขาได้ไปเลย 12 Collection แบบเต็ม Marketplace อ่ะ


ก็มองว่านี่คือ utility หนึ่งที่เราจะเอามาให้คนถือผลงานเรา ไม่ต้องไปคิดอะไรเองด้วย มีคนมาทำให้ (หัวเราะ)


ก็เลยได้คุยกับ Babylon จนสนิทกัน  คือเราก็พยายาม educate คนในคอมมูฯเราว่า  เฮ้ย การที่ you เอาไป list ลงใน Babylon น่ะ  you จะได้แบบ List-to-earn มันต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง 



 


ในส่วน Community ของ Bored Town เอง ก็เกิดขึ้นตั้งแต่ Collection แรกเลย ดูเป็นที่ ๆ คนในคอมมูฯ สนุกสนานกันมากเลยนะครับ

ใช่ ๆ มันเป็น community กาว (หัวเราะ) มันไม่มีอะไรเลย ก็เม้าท์มอยกันเฉย ๆ เพราะมันไม่มีความคาดหวังเรื่อง Road Map  แล้วคนก็ได้มาร่วมกันสนุก ๆ เฉย ๆ 


พี่จะพยายามไม่ทำให้มันเป็น Business เพราะว่าบางทีโปรเจคที่ขายความเป็น Road Map มากไป มันทำให้เครียดกันทั้งคนซื้อและคนขาย


พอมันมีความคาดหวัง แล้วถ้ามันไม่สามารถทำได้ เพราะบางทีมันไม่ได้เกิดจากตัวโปรเจคหรอก แต่มันเกิดจากเรื่องอื่นๆที่เราคุมไม่ได้


เช่น สมมติว่าคนเขาบอกว่าจะสร้างนู่นสร้างนี่ แต่สถานการณ์ตลาดมันไม่ได้ เขาก็จะรู้สึกว่า อ้าว you ไม่ทำตามสัญญาแล้ว พี่ก็เลยไม่เอา ไม่อยากเครียดกับสิ่งพวกนี้ 


แต่สำหรับคอมมูฯของเรา ก็จะมีเซอร์ไพรส์มาคอยเติมให้แทน  มีอีเวนต์อะไรมาให้เล่นกันอยู่เรื่อย ๆ





 


ดูเหมือนว่าตอนนี้ทาง Bored Town ก็จะมีบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ สนใจเข้ามาหาเยอะขึ้นด้วย

ใช่ค่ะ อย่าง Coral คือพี่ไปช่วยสอน NFT เฉย ๆ แต่ก็อาจจะมีอะไรเพิ่มเติมในอนาคต

ทาง Bitazza เอง ก็มีไปคุยกับเขาเรื่องของ NFT


ส่วนของ Tripster เขาทำ NFT ที่เป็น travel-to-earn แล้วอยากจะขยายตลาดไปทั่วโลก

เขาก็มองว่า Bored Town มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลกแล้ว ก็จะให้เราสร้าง NFT ที่มาช่วยในเรื่องของ marketing


พอเรามีประสบการณ์ในการทำมาหลาย chain มาก คนเห็นว่าเรามีประสบการณ์ เขาก็เลยสนใจเรา อีกอย่างคือ ด้วยความที่เราปล่อย collection ออกมาเยอะ ทำให้มีคนเข้ามาในชุมชนของเราเยอะขึ้น


ตอนนี้ Bored Town มีผู้ติดตามเกือบ 30,000 คนแล้ว ใน Discord ก็มีประมาณ 17.3k คน เป็น community ที่กาวล้วนๆ (หัวเราะ) ก็สนุกสนานกันไป


คือ พี่อยากให้ community ของเราเป็นที่ที่คนเคารพกันและกัน ไม่ใช้คำหยาบคาย หรือดูถูกคนอื่น  คนในคอมมูฯจะโดนพี่ดุบ่อยมาก โดยเฉพาะห้อง General (หัวเราะ) เห็นใช่ไหม มีมารยาทนิดหนึ่งนะเธอ


เพราะบางคนเข้ามาแล้วคาดหวังอะไรบางอย่าง พอรู้ว่าไม่ได้ตามนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง พี่ก็บอกเขาว่าอย่ามาดูถูก หรือพูดไม่ดีใส่คนอื่น


บางคนมาแล้วใช้ F-Word หรือพูดไม่ดี พี่ก็จะดุและสอนเขาไปว่าการที่คุณพูดแบบนี้ มันแสดงตัวตนของคุณ ถ้าคนอื่นพูดกับคุณแบบนี้ คุณจะรู้สึกยังไง สุดท้ายเขาก็ฟังเรา พออธิบายให้ฟัง เขาก็เข้าใจ





ก็คือสุดท้ายเราก็อยากจะสร้างให้เป็น community ที่ดีขึ้นมา

ใช่ เราอยากสร้าง community ที่ดี ทุกคนต้องเคารพซึ่งกันและกัน เพราะเราคุยกับคน ไม่ใช่เครื่องจักร เราต้อง respect กัน 


ถ้ามีใครอยากรู้อะไรก็ถามกันมาตรง ๆ เราพร้อมจะตอบ เรานั่งรอตอบอยู่  แต่ถ้ามาโกรธเราแล้วไป ก็ไม่โอเค



ดูเหมือนว่าสมาชิกใน Community ของทาง Bored Town ตอนนี้ ก็น่ารักกันมาก ๆ เลยนะครับ

ใช่ ๆ น่ารักมากเลยนะ แล้วช่วยเหลือกันด้วย


อย่างช่วงแรก ๆ คนก็อาจจะยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ ยังไม่รู้ว่าเนื้อแท้ของพี่เป็นยังไง ตอนนี้คือชัดแล้ว (หัวเราะ) 

เขาก็รู้ว่า เฮ้ย พี่แก๊ปไม่ได้มีอะไรหรอก เขาสนุกสนานไปตามเรื่อง แต่ถ้าใครมาสะกิดก็พร้อมด่า พร้อมเป็นเครื่องด่าได้


คือตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันหมดเลย ซึ่งพี่ชอบนะ เป็นบรรยากาศที่ดีด้วย มีอะไรก็มาถาม ถ้าเราตอบได้หรือเรามีความรู้พอจะตอบ เราก็ตอบ แต่ถ้าเราไม่มีความรู้เดี๋ยวเราก็จะถามคนอื่นให้





 


หลังจากนี้ พี่แก๊ปตั้งใจว่าจะสร้าง Bored Town ให้เป็นแบบไหนต่อไปครับ ?

พี่อยากสร้างให้มันเป็น community ที่มี asset ของตัวเอง สามารถเอา asset มาสร้างรายได้ 

แต่ไม่ใช่รายได้แบบ โห ซื้องานวันนี้พรุ่งนี้ขายได้ 10 เท่า คือเราจะไม่เน้น hype ไม่เน้นอะไรอย่างนั้น แต่พี่อยากทำให้เป็นธุรกิจที่มันมีความ sustainable


อย่างที่ไปร่วมกับ Babylon คนที่ List งาน เขาจะได้เหรียญหรืออะไรมา อย่างหนึ่งละ  ต่อจากนี้เราก็จะไปร่วมกับตัว Omnisea ซึ่งเป็น Launchpad ที่เราสามารถไป Launch งานได้ แล้วหลังจากนั้นในอนาคตเขาก็จะทำเป็น Marketplace 


ดังนั้นคนถืองานของ Bored Town ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ช่วยพัฒนา เราก็จะมีธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เราผลิต NFT เองได้  เรามีศิลปินที่เข้ามาช่วยเราทำงาน 

คนที่ถือ NFT ก็จะเป็นเหมือนเป็นหุ้นส่วนหนึ่งของ Omnisea



แปลว่าคนที่เข้ามาร่วมกับ Bored Town ก็จะได้อยู่ใน ecosystem ของ NFT ตั้งแต่ต้น ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่าง เช่น การเข้าไปมีส่วนในการสร้าง Launchpad หรือได้ออกความเห็นว่า Marketplace ต่อไปมันจะเป็นแบบไหน ทาง Community เอง ก็จะได้ทดลองหลาย ๆ อย่าง ไปพร้อม ๆ กัน  ใช่มั้ยครับ ?

ใช่ ๆ แล้วด้วยความที่เราไปพัฒนากับเขา พี่ก็มองว่ามันเป็นประโยชน์กับคนถืองาน ถ้าหากว่าเราช่วยกันทำให้มันเป็น Launchpad ที่มีคนใช้มากขึ้น เป็น Marketplace ที่มีการซื้อ-ขายมากขึ้น เราผู้ถือเหรียญของเขาก็จะได้รับประโยชน์ที่มันยั่งยืน


คือ เราก็ไม่ได้คาดหวังกำไรอะไร ก็เหมือนกับไปเรียนรู้กัน

แต่เราก็ไม่รู้ไง มันก็อาจจะมีโอกาสที่มันอาจจะทำให้พวกเรากลายเป็นเศรษฐีกันทั้งคอมมูฯ (หัวเราะ) ซึ่งเราก็ไม่สร้างความคาดหวังแบบนั้นหรอก (หัวเราะ)


แต่พี่มองว่ามันเป็นมากกว่าการขาย NFT อ่ะ เหมือนแบบมันยากนะเว้ย ที่จะได้เข้าไป contribute ในสิ่งที่มันเป็นต้นน้ำมาก ๆ 


อย่าง Omnisea เขารับฟังเรา พี่ก็ช่วยเขาแนะนำมาตั้งแต่ต้นเลย เขาก็อยากให้เรา Feedback ด้วยแหละ ในฐานะของคนทำ Platform เขาก็อยากรู้ว่าคนใช้อยากได้อะไร 


เราจะมีความแบบ ชอบอ่ะ เหมือนแบบ เฮ้ย มีโอกาสมาพัฒนา  แล้วเราก็ไม่ต้องไปจ้างใครมาทำให้เรา  เขาก็เป็นคนที่ Professional ด้านนั้นอยู่แล้ว  มันก็ win-win กัน เราช่วยเขา เขาช่วยเรา  มันก็เติบโตไปพร้อม ๆ กัน





 


Ok ครับ ก็ขอบคุณพี่แก๊ปมากเลย ขอบคุณมากครับ ยังไงพี่แก๊ปฝากอะไรนิดหนึ่งไหมครับ

ขายงานไหม ขายงานอะไรดีวะ (หัวเราะ)


ติดตาม Bored Town ก็ได้ ติดตามความเป็นไปของ Bored Town นิดนึง

 

เมื่อ 6 เดือนที่แล้วเราอยู่ในจุดที่เราไม่รู้จะทำอะไร แต่ตอนนี้คือเรามีจุดมุ่งหมายที่ค่อนข้างจะเห็นได้ชัดละ



ก็ติดตาม Bored Town กันนะครับ ขอบคุณพี่แก๊ปมากครับ 

ขอบคุณค่ะ




 




ติดตามผลงานของ Bored Town ได้ที่


bottom of page